เครื่องพิมพ์ 3 มิติ Ultimaker
ผู้ผลิตเครื่องพิมพ์ 3D Printer จากประเทศเนเธอร์แลนด์ ที่ถูกสร้างโดย Martijn Elserman, Erik de Bruijn และ Siert Wijnia และเริ่มต้นขายเครื่องพิมพ์ 3 มิติ แบบ Reprap รุ่น Darwin ในปี 2011 ทั้งหมดเริ่มเห็นจุดอ่อนของ เครื่องพิมพ์ 3D ที่นำมาใช้ในตอนแรก และได้คิดค้นและพัฒนา เครื่องพิมพ์ 3 มิติในรูปแบบของตัวเอง โดยใช้เครื่องตัดเลเซอร์ ในการพัฒนาและทำต้นแบบขึ้นมา โดยวัสดุที่เริ่มนำมาใช้เป็นโครงเครื่องก็คือ ไม้อัด หลังจากนั้น ก็ได้เครื่องต้นแบบ และใช้ชื่อว่า Ultimaker Original และได้เปิดเป็น Open Source ซึ่งอยู่ภายใต้ใบอณุญาติ Creative Commons BY-NC คือ สามารถทำซ้ำได้โดยไม่ละเมิดลิขสิทธิ์ แต่ต้องบอกต้นตอที่มา และไม่ทำเพื่อการค้า ซึ่งทำให้เครื่อง Ultimaker เป็นที่นิยมอย่างมาก ในฝั่งของยุโรป เรียกได้ว่า ฝั่งอเมริกา มี เครื่องพิมพ์ 3 มิติ Makerbot ฝั่งยุโรปก็มี Ultimaker
เครื่องพิมพ์ 3 มิติ Ultimaker ถูกพัฒนามาแล้วหลายรุ่น โดยรุ่นล่าสุดเรียกว่า Ultimaker 2+ ที่ได้ปรับปรุงระบบดันเส้นลวดพลาสติก และหัวฉีดแบบถอดเปลี่ยนได้ง่ายขึ้น นอกจากนั้น ยังพัฒนาในเรื่องของพัดลมเป่าชิ้นงานอีกด้วย
คุณสมบัติเครื่องพิมพ์ Ultimaker 2+
- พื้นที่การพิมพ์งาน 223 x 223 x 205 มิลลิเมตร
- ขนาดรูหัวฉีด 0.4 มิลลิเมตร
- ความละเอียดสูงสุดที่พิมพ์งานต่อชั้น 25 ไมครอน
- ความละเอียดในการเคลื่อนที่ในแนวแกน X และ Y อยู่ที่ 12.5 ไมครอน
- ความละเอียดในการเคลื่อนที่ในแนวแกน Z อยู่ที่ 5 ไมครอน
- หัวฉีดสามารถทำอุณหภูมิได้สูงสุด 260 องศาเซลเซียส
- มีหน้าจอ LCD และช่องใส่ SD Card
- มีฐานทำความร้อน (Heated Bed)
- ใช้เส้นพลาสติกขนาด 2.85 มิลเท่านั้น
พลาสติกที่สามารถพิมพ์ได้
โปรแกรม 3 มิติที่รองรับการทำงาน (ตัวโปรแกรมรองรับไฟล์จำพวก STL, OBJ, PLY)
- Solidework
- Google Sketchup
- Rhino
- Autocad
- Zbrush
- Maya
โปรแกรมสำหรับควบคุมเครื่องและสร้างโค๊ด
สำหรับ Ultimaker2+ 3D Printer นั้นโปรแกรมที่ให้มาถูกมาจากโปรแกรม Replicator-G ของ Makerbot แต่ได้ถูกเปลี่ยนและพัฒนาให้เหมาะสมกับเครื่อง Ultimaker ทำให้บริษัทได้ทำการเปลี่ยนชือโปรแกรมเป็น Cura ซึ่งเป็นโปรแกรมแบบ Open Source ที่ผู้ใช้เครื่องพิมพ์ 3 มิตินิยมใช้มากที่สุด เพราะมี Interface ที่เข้าใจง่ายและไม่ซับซ้อน